“วีบียอนด์ กลยุทธ์แกร่ง เติบโตสวนกระแส ผนึกกำลังควบพันธมิตรใหญ่แนวหน้าอสังหาและช่องทางการขายในแพลตฟอร์มเบอร์ต้น มั่นใจโกยยอดขายตามเป้า”

“ครบเครื่องอสังหาฯ มองหาวีบียอนด์” คือคอนเซ็ปต์ของ บริษัท วีบียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด ภายใต้การนำของ CEO หนุ่มไฟแรงที่ทุกกระแสต้องถามถึง คุณวรเดช รุกขพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตั้งเป้าวีบียอนด์จะเป็น One Stop Service ในด้านอสังหาริมทรัพย์เป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้าทุกกลุ่มทุกอาชีพที่จะต้องนึกถึงวีบียอนด์ เมื่อจะซื้อบ้าน คอนโดอยู่อาศัยหรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ พร้อมให้คำปรึกษาและให้บริการแบบครบวงจร ไม่ว่าจะขายเช่าซื้อ ซ่อมแซม ตกแต่งภายใน ครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์ทุกด้าน ให้บริการทุกพื้นที่ เหนือ กลาง อีสาน ใต้ ตั้งเป้ากวาดยอดขายหลายพันล้านต่อปี และเตรียมนำบริษัทยื่นไฟล์ลิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์เร็วๆ นี้ ไม่เพียงเท่านี้คุณวรเดชจะมาเปิดเผยรูปแบบการบริหารงานผ่านพ้นจากเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และกลยุทธ์ที่บริษัทต้องทรานฟอร์มตัวเองขึ้นสู่แถวหน้า ด้านงานขายและบริหารอสังหาริมทรัพย์ในยุคที่มีการแข่งขันและจะต้องปรับตัวกันอย่างมาก
โอกาสทางธุรกิจ จุดเริ่มต้นวีบียอนด์
“ผมมองว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังไงก็เป็นปัจจัย 4 ที่รัฐบาลทุกรัฐบาลจะให้ความสำคัญ และชี้วัดตัวเลขเศรษฐกิจจากอสังหาริมทรัพย์ ผมจึงมองว่านี่เป็นโอกาสทางธุรกิจ เพราะที่อยู่อาศัยเป็นสิ่งที่ทุกคนขาดไม่ได้ รัฐบาลจะมีนโยบายกระตุ้นการซื้อบ้าน-คอนโดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนมีบ้านเป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้น เพราะจะเป็นตัวเลขที่สะท้อนเศรษฐกิจได้ดีที่สุด แต่ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป การเลือกซื้อบ้านสักหลัง คอนโดสักห้อง ที่เป็นสินค้าราคาสูง ทำให้การเลือกซื้อบ้าน-คอนโดที่สร้างเสร็จแล้วกลายเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ดังนั้นวีบียอนด์จึงตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งโครงการที่สร้างเสร็จแล้วที่มีหลากหลายโครงการที่ให้ลูกค้าได้เลือกชม พร้อมกับดีลราคาที่ดีที่สุด โปรโมชั่นส่วนลด ของแถมที่มากกว่า ร่วมไปถึงการบริการครบวงจรแบบ One Stop Service ยิ่งทำให้การมีบ้านสักหลังเป็นเรื่องง่ายที่วีบียอนด์ครับ”
ออกแบบการทำงานหลังเศรฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“ต้องบอกว่า สถานการณ์เศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ทำให้เราต้องปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจหลายอย่างมีการออกแบบในการทำงานเชิงตั้งรับให้ดีขึ้นในทุกด้าน วางแผนป้องกัน ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ หรือปัญหาที่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เราก็พร้อมที่แก้ไขปรับเปลี่ยน เรามีแนวทางจัดการต่างๆ ที่ออกแบบไว้เรียบร้อย และไม่ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ผมเชื่อว่าเราผ่านไปได้ทุกปัญหาเราก็ยังรับมือได้สบายมาก เพราะคนที่ปรับตัวได้เร็วคือคนที่อยู่รอดน่ะครับ ความคล่องตัวขององค์กรผมให้น้ำหนักความสำคัญตรงนี้เยอะหน่อย”
คุณวรเดชกล่าวต่อว่า “นโยบายในเรื่องของความพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ สิ่งแรกที่ผมทำก็คือ ผมพัฒนาระบบเทคโนโลยีแพลตฟอร์มที่มีชื่อว่า “VBIS” (วี-บิส) เป็นระบบที่เชื่อมโยงการทำงานในทุกส่วน ทั้งภายในบริษัท และภายนอกบริษัทให้การทำงานได้อย่างราบรื่น และถ้าหากเกิดเหตุการณ์อย่างเช่น โควิด-19 หรือเหตุการณ์ที่พนักงานไม่สามารถเข้าออฟฟิศได้ ระบบนี้รองรับการทำงานของพนักงาน สามารถทำงานได้จากที่บ้าน หรือที่ไหนก็ได้ทุกที่ทุกมุมโลก เพื่อการทำงานที่ไม่สะดุดพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด สามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ตรงจุด และยั่งยืน”
วิกฤตเศรฐกิจ แต่ในภารกิจที่ยอดขายยังต้องเติบโต
“ที่ผ่านมาต้องบอกว่ายอดขายเราสูงขึ้น ณ วันนี้เมื่อยังไม่ปิดไตรมาสดีเมื่อเทียบกับปีก่อน แค่ปีนี้เราเข้าเป้ากำไรโตขึ้นถึงกว่าหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ ถือว่าสำเร็จตามคาด แต่ถ้าทำยอดขายเข้าเป้าหรือเกินกว่าเป้าที่เราวางไว้ ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปตามคาด ในแง่ของอัตราทำกำไร เรากระตุ้นยอดขาย ทำกำไรได้ดีกว่าปีก่อน เพราะเราบริหารต้นทุนได้ดี นำเทคโนโลยีมาใช้ลดรายจ่ายได้หลายส่วน และวางแผนลงมือทำชิ้นงานที่มีผลตอบแทนตอบโจทย์ของการทำกำไรได้ดีเช่นกัน”
เคล็ดลับความสำเร็จท่ามกลางวิกฤตนั้นอยู่ที่ “การปรับตัวอย่างรวดเร็ว”
“ต้องบอกว่ายอดขายอัตราทำกำไรของเราสูงขึ้นเพราะว่าเรามีการปรับแผน ปรับกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับพนักงานในบริษัทส่วนใหญ่แล้ว เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์มากพอกับสถานการณ์ต่างๆ และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว เราเอาเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นสำหรับการรองรับการทำงานของพนักงานวีบียอนด์โดยเฉพาะ เราดึงเอา Online digital marketing ต่างๆ เข้ามาปรับใช้ทั้งหมดเลย ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็ส่งผลต่อการทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น อัตราทำกำไรก็มากขึ้นด้วย”
วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
เนื่องจากปีนี้เราได้ทำการวางแผนกันอย่างเป็นระบบตั้งแต่ปีก่อนหน้า เราสร้างสต็อกในการบริหารโครงการขายไว้ล่วงหน้า คิดโปรโมชั่นที่ร้อนแรงตรงตามความต้องการมากกว่า การทำการตลาดกระตุ้นการตัดสินใจของกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ซึ่งเป็นช่องทางที่เข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว แต่ก็ไม่ทิ้งการทำการตลาดแบบออฟไลน์อย่างการออกบูธที่ก็เป็นอีกช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง รวมไปถึงฐานข้อมูล Database ฐานลูกค้าที่ดีของเรา ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าของวีบียอนด์อยู่แล้ว ใช้บริการก่อนหน้า ทำให้เราเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ จากการบอกต่อ และกลุ่มลูกค้าเช่าที่เรามีโครงการ “ต้นกล้าวีบียอนด์” เปลี่ยนฐานลูกค้าเช่าของเราให้เป็นผู้ซื้อ โดยนำเงินค่าเช่าเปลี่ยนกลับเป็นเงินดาวน์ให้กับลูกค้าเช่าของวีบียอนด์ แถมยังผนึกกำลังพันธมิตรทุกช่องทางทุกแพลตฟอร์มที่ไปทางไหนก็จะเห็นสินค้าและบริการของเราในทุกที่ เรียกง่ายๆ ว่าหันไปคลิกตรงไหนต้องเจอโครงการขายของวีบียอนด์ ทั้งหมดนี้เราได้วางแผน วางระบบต่างๆ ที่สามารถดำเนินธุรกิจและขยายให้ครอบคลุมต่อเนื่องให้มากขึ้นอีกเยอะ จะทำให้การซื้อบ้านง่ายพอๆ กับไปร้านสะดวกซื้อ วางแผนดีก็ย่อมมีชัยครับ”

เตรียมพร้อมนำวีบียอนด์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
“ในปีหน้า 2564 เรามีการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคต่างๆ เพิ่มขึ้น เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น เพื่อสอดรับกับการที่เราจะเข้าเป็นบริษัท (มหาชน) ปีหน้า ยื่นไฟล์ลิ่งประมาณช่วงปีหน้า และคาดว่าเข้าเทรดซื้อขายภายใน 2565 จริงๆ เราคิดว่าเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการที่จะเอาบริษัทเข้าจดทะเบียน เพื่อระดมทุนขยายธุรกิจเพิ่มความสามารถในการแข่งขันเร่งอัตราการเติบโต ของการทำกำไรได้ดีขึ้นทันที และในโลกอสังหายุคใหม่ วีบียอนด์ภายใต้ผู้นำที่มีศักยภาพของเราพร้อมจะเปลี่ยนโลกอสังหาในยุคใหม่อีกมากมาย แถมมีเรื่องว๊าวๆ อีกเยอะครับ”
โอกาสขยายแผนธุรกิจหลังระดมทุน
“ตามแผนของเราเมื่อจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เรายังมีโอกาสขยายธุรกิจเพื่อไปพัฒนาธุรกิจในส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เราสามารถต่อยอดหรือขยายฐานธุรกิจได้อีกมาก ตั้งแต่ที่ดิน หรือร่วมลงทุนกับแบรนด์ชั้นนำ รวมไปถึงการบริการ เรามีรายได้ได้ทั้งหมดเลย แล้วก็ยังมีอีกหลายกลุ่มธุรกิจที่เรากำลังจะขยายไปลงทุนร่วมและเพิ่มช่องทางรายได้ในธุรกิจต่างๆ ครบทุกสิ่งในอสังหาที่มีผลตอบแทนกำไรสูงพอเลือกได้แล้วว่าธุรกิจที่ผ่านมาจากยุคโควิดในตอนต้น มาถึงปัจจุบันอะไรที่รอดมาได้อันนั้นน่าจับตามองทั้งสิ้น”
“ผมอยากให้นักลงทุนจากทั่วโลก และนักลงทุนจากในประเทศ ศึกษาธุรกิจการลงทุนของธุรกิจในรูปแบบใหม่ ที่ผ่านวิกฤตโควิดมาได้ ผ่านวิกฤตเศรฐกิจมาได้ธุรกิจประเภทนี้น่าสนใจ ในเรื่องของการให้น้ำหนักของการลงทุนแล้ว ผมเชื่อว่าวีบียอนด์เองก็จะเป็นบริษัทหนึ่งที่เรียกได้ว่าเซ็กซี่ที่สุดบริษัทหนึ่งไม่แพ้บริษัทใดๆ ในตลาดที่กำลังจะเป็นบริษัทน้องใหม่ที่จะเข้าจดทะเบียน เราพร้อมจะสร้างความทันสมัยในแบบที่ลูกค้าจะรู้สึกว่าบริการด้านอสังหาเป็นเรื่องง่าย ดันยอดขายผลประกอบการ อัตราทำกำไรที่เพิ่มมากขึ้น จากวิสัยทัศน์ของผู้บริหารของเรา พร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพที่มาร่วมงานกับเรา ล้วนเป็นคนที่มีประสบการณ์และเป็นบุคคลรุ่นใหม่ ที่มีไอเดีย นำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ให้สอดคล้องกับยุคสมัยปัจจุบันเรียกได้ว่าในองค์กรเรามีแต่คนเก่งๆ เต็มไปหมด ผมโชคดีที่ได้ทำงานกับคนเก่งเยอะจริงๆ ในวีบียอนด์ นี่แหละครับเหตุผลที่เราต้องขยายองค์กรเพื่อให้พื้นที่คนเก่งได้ขยายขีดความสามารถสร้างโลกอสังหายุคใหม่ไปด้วยกัน”
โดยท้ายที่สุดนี้ผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรงแห่งวีบียอนด์ได้ทิ้งท้ายว่า
“ผมจะทำให้วีบียอนด์มีแต่คนเก่งที่ทันสมัยเต็มไปหมด การสร้างคนเก่งคือความแข็งแกร่งในองค์กร” วรเดชกล่าว
ขอบคุณที่มาจาก https://www.prachachat.net